สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น ก็เป็นอีกการลงทุนที่มีมาแต่ช้านาน อีกทั้งยังเป็นวิธีลงทุนที่ง่ายๆสำหรับคนโบร่ำโบราณที่คิดแค่ว่า มีเงินเยอะๆก็ซื้อบ้านหลายๆหลัง ไว้ให้เช่า ไว้ขายยามขัดสน ไม่หรือจะเป็นการ ซื้อขายที่ดิน ก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน แม้ว่าจะต้องอาศัยเม็ดเงินลงทุนค่อนข้างสูง แต่ก็มีมั่นคงทางสินทรัพย์มากกว่าการลงทุนแบบอื่น อีกทั้งหากเข้าไปลงทุนได้ถูกที่ถูกเวลาก็จะให้ผลตอบแทนที่มากอย่างเหลือเชื่อ ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อที่ดินเก็บไว้ วันดีคืนดีมีถนนมาตัดผ่านที่ของคุณ มูลค่าที่ดินของคุณรับรองได้ว่าต้องเพิ่มมากขึ้น 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว
ในปัจจุบัน รูปแบบของอสังหาริมทรัพย์ก็มีมากมาย อีกทั้งความต้องการของผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน คนต่างจังหวัดที่ส่วนใหญ่เดินทางมาประกอบอาชีพในกรุงเทพมหานคร จากเดิมที่เช่าบ้านหรืออพาร์ตเม้นต์ก็เริ่มมีแนวความคิดที่เปลี่ยนไปอยากจะเป็นเจ้าของเอง มากกว่าที่จะต้องจ่ายค่าเช่าทิ้งไปทุกเดือนๆ ก็เริ่มที่จะมองหาเป็น บ้านมือสอง ,ทาวน์เฮ้าส์มือสอง ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ๆ ซึ่งพวกเค้าเหล่านั้นมีศักยภาพในการผ่อนชำระค่างวด สุดท้ายก็จะได้เป็นเจ้าของบ้านของตัวเอง เมื่อวันใดเบื่อชีวิตในเมืองแล้ว ก็อาจจะปล่อยให้เช่า หรือขายก็ถือว่าเงินที่ผ่อนไปไม่เสียเปล่าอีกด้วย
แต่ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มเริ่มทำงาน และเน้นความสะดวกสบายเป็นสำคัญ บ้านอาจจะยังไม่ใช่คำตอบของเค้าเหล่านั้น คอนโดมิเนียม เป็นอีกทางเลือกที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ อาจจะด้วยมูลค่าของสินทรัพย์ที่ถูกกว่า การดูแลบำรุงรักษาที่ง่ายกว่า รวมถึงทำเลที่ตั้งซึ่งในปัจจุบันมีโครงการคอนโดมากมายที่ผุดขึ้นใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นคอนโด สาธร, คอนโด สุขุมวิท หรือย่านท่องหล่อ โครงการเหล่านี้ล้วนได้รับความนิยมถูกจองเต็มในระยะเวลาอันรวดเร็ว นักลงทุนไม่น้อยทันมาจับตลาดอสังหาริมทรัพย์ตัวนี้ เนื่องจากโอกาสในการขายก็มี หรือจะเก็บไว้ให้เช่าก็หาลูกค้าได้ไม่อยากยิ่งถ้าโครงการของคุณอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายกับการเดินทาง อยู่ใกล้ย่านช้อปปิ้ง รับรองได้ว่าห้องชุดของคุณไม่ว่างแน่นอน หรือในนักลงทุกบางรายที่เม็ดเงินลงทุนยังไม่มากนัก ก็อาจจะต้องทำการบ้านเพิ่มอีกสักนิด วางแผนในการตัดสินใจซื้อแต่ละโครงการอย่างรอบคอบ เพียงแค่การขายใบจอง หรือขายดาวน์ คุณก็อาจจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเลยทีเดียว
จะเห็นได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นตลาดที่หอมหวานสำหรับนักลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น ซึ่งมีการผันผวนค่อนข้างมาก ยกตัวอย่างเช่น ทองคำ จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงราคาจนน่าตกใจ จากที่เคยขึ้นสูงสุดเกือบราคา 30,000 บาทต่อทองคำ 1 บาท แต่ในปัจจุบันราคาทองคำ 1 บาท ลดลงเหลืออยู่เพียง 18,000 บาทเท่านั้น ยิ่งในตลาดหุ้นแล้ว สินทรัพย์ของคุณก็กลายเป็นเพียงแค่กระดาษใบหนึ่งเท่านั้น แม้การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จะต้องอาศัยเม็ดเงินที่สูงกว่า แต่ความมั่นคงของสินทรัพย์ก็สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ตัวอื่น อีกทั้งจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ความต้องการปริมาณที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงทำให้มีการพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานครเอง ไปจนถึงหัวเมืองสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี กาญจนบุรี ตลอดจนแผ่ขยายไปยังเมืองท่องเที่ยวทั้ง ภูเก็ต หัวหิน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแต่แสดงให้เห็นแล้วว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นตลาดการลงทุนที่หอมหวานสำหรับนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น